
ขายอะไรดี ลงทุนน้อย กำไรดี
เมื่อจะเริ่มต้นขายของ หลายๆคนคงคิดไม่ตกว่าจะขายอะไรดีถึงจะได้กำไรเยอะๆ
ซึ่งข้อดีของอาชีพค้าขายคือ เป็นอาชีพอิสระ สามารถออกแบบวางแผนการขายได้เองตามแต่ถนัด
ทำให้มีโอกาสสร้างรายได้ที่สูงกว่าการเป็นลูกจ้างทั่วไป โดยหากขายได้มาก
ก็ทำให้มีรายได้มาก มีความหยืดหยุ่นในวันพักผ่อน อยากหยุดวันไหนก็หยุดได้
แต่อาชีพค้าขายก็มีจุดที่เสี่ยงหรือข้อด้อยคือ รายได้ที่ไม่แน่นอนในแต่ละวัน มีโอกาสขาดทุนถ้าขาดการบริหารจัดการที่ดี
ซึ่งเรามีแนวทางขายของที่ลงทุนน้อยหลักพัน กำไรดีมาแนะนำกันคือ
1.ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
อาหารเช้ายอดนิยม กินง่าย สะดวก อยู่ท้อง ลงทุนในงบไม่เกิน
5,000
บาท สำหรับสิ่งที่ต้องลงทุนซื้อหลัก ๆ คือ เนื้อหมู, ไม้เสียบ, ข้าวเหนียว และถุงใส่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
ส่วนเตาปิ้งเราสามารถทำเองก็ได้หรือซื้อเตาธรรมดาใช้ไปก่อน หรือจะใช้เป็นเตาไฟฟ้าก็ได้
2.แซนวิช
เป็นอาหารที่ทานเร็วเหมาะกับความเร่งรีบในปัจจุบัน
แซนวิชยังสามารถทานเล่นช่วงเวลาเบรค ทานเป็นมื้อหลักก็ได้ ได้รับความนิยมมีหลากหลายไส้
อาจจะเลือกขาย 2-3อย่างตามแต่ทุน เช่น ไส้หมูหยอง ไส้ทูน่า ไส้ปูอัด เป็นต้น โดยตั้งราคาขายตามคุณภาพและขนาดของแซนวิช
คือตั้งราคามากกว่าต้นทุนประมาณ 5-10 บาท ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขายคือช่วงเช้า
และเย็น สำหรับต้นทุนที่สำคัญคือขนมปังและวัตถุดิบประกอบต่าง ๆ อยู่ที่ประมาณ 2,000
บาท
3.ปิ้งย่างหม่าล่า
หากคิดจะเปิดร้านปิ้งย่างหม่าล่าต้องมีเมนูให้ลูกค้าเลือกเยอะ
ๆ และต้องหลากหลาย เพราะความชอบของลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน
การมีเมนูที่หลากหลายมันจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า มีเงินทุนเริ่มต้นเพียง 3,000
ก็เริ่มต้นขายได้แล้ว เบื้องต้นเราจะต้องลงทุนวัตถุดิบและเครื่องปรุงหมาล่าก่อน
อุปกรณ์จะมี เตาปิ้งย่าง ตะแกรงพักของย่าง แปรงทาพริกหม่าล่า ถุงพลาสติก หรือถ้วยพลาสติกสำหรับใส่ขาย
4.ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
จัดเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ใช้ทุนน้อย
แต่สร้างรายได้อย่างงาม เป็นหนึ่งในอาหารเฮลตี้สำหรับคนรักสุขภาพที่ต้องทานกันอย่างเป็นประจำ
การลงทุนเบื้องต้นจะเป็นการลงทุนสำหรับค่าอุปกรณ์หลัก ๆ ซึ่งมีไม่กี่ชิ้น
และวัตถุดิบ เช่น ผัก แป้งห่อ น้ำจิ้ม ด้วยงบประมาณไม่เกิน 5000 บาท ก็สามารถขายได้แล้ว
5.ลูกชิ้นปิ้ง/ทอด
สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ด้วยเงินทุนไม่ถึง 3,000
บาท อุปกรณ์หาได้ทั่วไปในบ้าน หรือเตาถ่าน เตรียมโต๊ะ ไม้เสียบลูกชิ้น และถุงพลาสติก
พร้อมกับผักสดหรือแตงกวา เลือกทำเลที่มีผู้คนพลุกพล่าน เช่น หน้าโรงเรียน โรงงาน ตลาดนัด
เป็นต้น